จากคำขวัญ Pink + Purple is Fuchsia ผมเล่าเรื่อง Pink ไปแล้ว วันนี้มาถึงคิว Purple
Purple คือชื่อ codename ของ iPhone ครับ โดย iPhone คือ Purple 2 วันนี้จะมาเล่าให้ฟังเรื่อง Purple 1 ก่อนครับ ก่อนที่จะอ่านเรื่องนี้แนะนำให้กลับไปอ่านเรื่องราวของ iPod ก่อน เพื่อจะได้ทราบว่า iPod เกิดขึ้นมาอย่างไร และมีความสำคัญกับ Apple และ Steve Jobs แค่ไหน (https://www.facebook.com/…/permalink/264458511687113/)
iPod เป็นที่นิยมในปี 2002 และทำให้ Apple ผงาดขึ้นเป็นผู้นำของตลาดเครื่องเล่นเพลงพกพาในปี 2004 เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำรายได้ 16% ของรายได้ทั้งหมดของ Apple แต่จ๊อบส์รู้ดีว่า โทรศัพท์มือถือกำลังจะกลายเป็นคู่แข่งที่สำคัญของ iPod ในอนาคตอันใกล้ จำเป็นที่ Apple ต้องเข้าสู่ตลาดโทรศัพท์มือถือให้ได้ โครงการ Purple 1 จึงเกิดขึ้น
ตอนนั้น Apple ยังไม่ใช่บริษัทใหญ่ เพิ่งฟื้นตัวจากภาวะใกล้ล้มละลาย ยังไม่ได้รับการยอมรับและเชื่อถือจากบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหลาย การจะเข้าสู่วงการโทรศัพท์ไม่ใช่เรื่องง่าย
จ๊อบส์พยายามที่จะดัดแปลง User Interface ของ iPod ให้กลายเป็นโทรศัพท์ พยายามออกแบบอยู่นาน จนปี 2006 ก็จดสิทธิบัตร ปกติแล้วสิทธิบัตรของ Apple ไม่ค่อยมีชื่อจ๊อบส์ แต่คราวนี้เป็นชื่อจ๊อบส์เอง แสดงถึงการเอาจริงเอาจังในเรื่องนี้มาก แต่ UI ที่ออกมาก็ไม่ได้เรื่อง ปุ่มกดรูปวงกลมของ iPad ไม่ว่าจะทำยังไง มันก็ไม่ใช่ user interface ที่ดีของโทรศัพท์ไปได้ (ดูรูปประกอบใน comment แรก)
ช่วงนั้นสื่อมักจะหาโอกาสถามจ๊อบส์เสมอว่า Apple จะทำโทรศัพท์มั้ย แต่คำตอบที่ได้ทุกครั้งคือ “ไม่” และตอบเลี่ยงว่า Apple จะทำแต่ซอฟต์แวร์ที่ถ่ายโอนข้อมูลกับโทรศัพท์ก็พอ (iTunes ที่ถ่ายโอนเพลงให้โทรศัพท์)
จ๊อบส์รู้ดีว่า Apple ยังไม่มี connection กับวงการโทรศัพท์เลย ไม่รู้จัก Operator แม้แต่เจ้าเดียว ซึ่งตอนนั้นการขายโทรศัพท์มือถือขึ้นอยู่กับ Operator เท่านั้น จู่ๆใครๆจะมาวางขายไม่ได้ เพราะไม่มีเครือข่ายให้ใช้ก็จบ จึงไม่ง่ายที่บริษัทหน้าใหม่ของวงการแบบ Apple จะไปเจรจากับ Operator สำเร็จโดยไม่โดนกดราคาหนัก
ในปี 2004 Ed Zander จาก Sun Microsystems มาเป็น CEO ของ Motorola และเนื่องจากเป็นคนในวงการไอที จึงเป็นโอกาสของจ๊อบส์ที่พอรู้จักกับ Zander จึงพยายามเจรจากับ Motorola ซึ่งตอนนั้นกำลังส่ออาการแย่ และต้องการผลิตภัณฑ์ใหม่ๆพอดี
Zander มีไม้เด็ดคือโครงการ RAZR โทรศัพท์รุ่นใหม่ที่กำลังพัฒนาขึ้น และคาดว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ขายดีในอนาคต พอ Apple เอา iTunes เข้าไปเสนอ Motorola ก็เกิดความร่วมมือกันในทันที ปกติแล้ว Apple จะไม่ประกาศล่วงหน้าถึงผลิตภัณฑ์ที่จะออกในอนาคต แต่รอบนี้ต่างไป มีการแถลงข่าวใหญ่โตในเดือนกรกฎาคม 2004 โดยยังไม่มีการเซ็นสัญญาใดๆ เป็นแค่สัญญาสุภาพบุรุษด้วยลมปากว่าจะร่วมมือกันเท่านั้น
ตลาดตื่นเต้นขนาดหนัก ลือไปต่างๆนานา ว่า Apple จะออกโทรศัพท์ใหม่ แต่ในความจริงเรื่องนี้ยุ่งยากมาก Motorola ไม่ยอมให้ iTunes เชื่อมต่อกับ RAZR แต่จะทำอีกโมเดลเป็น Music Phone ชื่อ ROKR โดยให้เริ่มจากโมเดลเก่า E398 แม้มีลำโพงคู่, หูฟังชั้นดี แต่จ๊อบส์ไม่ชอบเอาเลยเพราะไม่มีอะไรแปลกใหม่
Apple จำเป็นต้องเงียบ และยอมรับแนวทางของ Motorola ทำ iTunes ให้ E398 แต่โดยดี แม้พยายามจะผลักดันให้ทำโมเดลใหม่ (ROKR) แต่ Motorola ก็โยกโย้ไม่ยอมทำ มีการประชุมกันทุกสัปดาห์ และข้อสรุปก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ จบตรงที่สั่งให้ Apple ทำ iTunes Player มาละกัน Motorola จะไปคิดเองว่าจะเอาไปใส่เครื่องรุ่นไหน
จ๊อบส์รอบนี้ใจเย็นมากไม่โวยวาย ยอมทำแต่โดยดี ผิดวิสัยของศาสดาไปมาก (แต่แน่นอนว่าโดนเอาคืนแน่นอน) Apple ทำตัวเป็นเด็กดี และเริ่มทำความรู้จักและสานความสัมพันธ์กับ Operator
Motorola แนะนำให้รู้จักกับ Cingular Wireless หนึ่งใน Operator ซึ่ง Apple ก็เริ่มเข้าประชุมกับ Operator และทำให้ Apple เริ่มเป็นที่รู้จักในหมู่ Operator
Motorola โชว์เครื่อง E398 ที่มี iTunes ครั้งแรกในงาน CES 2005 โดยไม่ได้บอก Apple ล่วงหน้าเลยว่าจะเปิดตัว และเครื่องที่โชว์ก็ไม่ใช่เครื่อง final เป็นเพียงเครื่องต้นแบบที่ยังไม่สมบูรณ์ เป็นอีกหนึ่งของความขัดเคืองใจของ Apple (แน่นอนว่าอยู่ใน list ที่จะเอาคืน)
ในงาน CTIA Wireless ปีเดียวกัน Motorola ก็ราดน้ำมันลงกองไฟอีก Motorola ช่วงนั้นมีปัญหาเรื่องการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ล่าช้า เลื่อนไปเลื่อนมา มีการนัดแถลงข่าวร่วมแล้วเลื่อน ในขณะที่ Apple เตรียมตัวแล้ว และแทนที่จะเงียบๆดันให้สัมภาษณ์ว่าการร่วมมือกับ Apple เป็นการร่วมมือจากคนละอุตสาหกรรม Apple ใจร้อน อยากประกาศตัววันอาทิตย์แล้วขายวันจันทร์ Apple เงียบปฎิเสธที่จะให้สัมภาษณ์เรื่องนี้
ในที่สุด ROKR E1 ก็เปิดตัวในเดือนกันยายน 2005 ปีเศษหลังการประกาศความร่วมมือกัน หน้าตาเหมือน E398 แทบทุกอย่าง มีปุ่มเพิ่มมาปุ่มเดียวคือปุ่มเล่นเพลง ขายผ่าน Cingular Wireless โดย Motorola หมายมั่นว่าจะขายดี
การเปิดตัวมี Video ของนักร้องดัง แต่แป๊ก เพราะสื่อไม่เห็นว่ามีอะไรใหม่ E398 ขายมาเป็นปีแล้ว แถมโทรศัพท์ก็ไม่มี WiFi ต้องโหลดเพลงผ่าน Cellular (ก็แหง เพราะขายโดย Operator) จุเพลงได้แค่ 100 เพลง และไม่ยอมให้ใช้เพลงเป็น Ring Tone ด้วย ต้องโหลดต่างหากจาก Operator งกสุดๆ จ๊อบส์ก็ร่วมงานเปิดตัวไปแบบเงียบๆ ขึ้นพรีเซ้นต์โทรศัพท์ไปตามปกติ แล้วรายการแก้แค้นก็เริ่มขึ้น
หลังจากจ๊อบส์ present ROKR เสร็จ ก็เปิดตัว iPod Nano กลางงาน โดยไม่บอก Motorola ก่อน ด้วยลีลาของศาสดา ROKR ก็โดนกลบรัศมี สื่อพากันกระพือถึงความล้มเหลวเมื่อแรกคลอดของ ROKR กันไปอย่างสนุกสนาน และ ROKR ก็ติดอันดับผลิตภัณฑ์ยอดแย่ประจำปีนั้นไป
Zander ยังไม่รู้ตัว ให้สัมภาษณ์กระแนะกระแหน iPod Nano ว่า “ใครจะไปต้องการเครื่องเล่นเพลงที่จุได้ 1,000 เพลงวะ ใครๆก็ต้องการเครื่องที่ทำได้มากกว่าฟังเพลง คนต้องการโทรศัพท์เว้ย”
ผลคือ ROKR ขายได้ราวล้านตัวในหนึ่งปี ในขณะที่แค่ไตรมาสเดียว iPod Nano ก็ขายไป 7 ล้านเครื่อง
ความโกรธเคืองของ Motorola ต่อ Apple ค้างคายาวนาน ผู้บริหารให้สัมภาษณ์ว่า Apple หลอกใช้ Motorola ทั้งๆที่ Motorola สอนและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ Apple
เพื่อนๆ คิดว่าไง?