ในปี 1988 ชาวไต้หวันสองคนชื่อ Jani และ Victor Tsao ย้ายไปอยู่สหรัฐอเมริกา ทั้งสองทำงานด้านไอที แต่ด้วยเป็นชาวไต้หวันจึงทำงานเป็นที่ปรึกษาให้บริษัทต่างๆที่ต้องการติดต่อกับโรงงานไต้หวันไปด้วย
ในช่วงนั้นการใช้ LAN network เป็นเรื่องที่ใช้ในที่ทำงานตามบริษัทต่างๆ ยังไม่มีการใช้ในบ้าน เนื่องจากทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ด้านเน็ตเวิร์คมีราคาแพง การ copy ไฟล์ยังใช้ Floppy Disk อยู่ ซึ่งปัจจุบันเหลือแค่ icon save เท่านั้นไม่มีใครใช้แล้ว
ทั้งสองคนมองการณ์ไกลมาก ตั้งบริษัท Linksys ขึ้นมา ทำ network card ขาย แต่ไม่รุ่งนักเพราะต้องใช้ driver ยุ่งยากมาก แต่ในปี 1995 ก็ถูกหวย เมื่อ Windows 95 ออกมา พร้อมกับ network driver built in ความต้องการ network card ก็พุ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน modem ก็เริ่มแพร่หลาย และเริ่มเข้าสู่ยุค Internet
พออินเตอร์เน็ต เกิดขึ้น ต้นทศวรรษ 2000 คอมพิวเตอร์ก็บูม เครื่องมีมากขึ้น และเริ่มมีความต้องการแชร์อินเตอร์เน็ตสำหรับหลายเครื่องในบ้าน เกิดความต้องการ router ขึ้นมา แต่ router ยังมีราคาแพงมาก
Linksys ออก router มาในราคา $199 และมีประสิทธิภาพเท่าๆกับของบริษัทใหญ่ ราคานี้ 2 Ethernet port ก็ดีแล้ว แต่ Linksys ให้ถึง 4 พอร์ต แถมทำงานได้ราบรื่นด้วย ทำให้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
Cisco เจ้าตลาดตอนนั้นเห็นท่าไม่ดีก็เลยเข้าซื้อ Linksys ไปในราคา 500 ล้านเหรียญ ซึ่งถูกมาก เพราะรายได้ของ Linksys ตอนนั้นก็ราวนั้นต่อปี
Router รุ่น WRT54G ขายดีขนาดหนัก และมีรูปลักษณ์สีน้ำเงินดำที่จดจำได้ง่าย ก็เลยกลายเป็นสัญญลักษณ์ของ router ไป ตอนนั้นเรียกว่ากวาดส่วนแบ่งตลาดแทบทั้งหมด แต่แล้วก็ฟ้าถล่ม เมื่อ Andrew Miklas ผู้เชี่ยวชาญด้าน Linux อีเมล์มาถามว่า ใน WRT54G น่ะเป็น Linux แล้ว ซอร์สโค๊ดล่ะอยู่ไหน?
Linux ใช้สัญญาอนุญาตแบบ GPL ใครเอาไปดัดแปลงต้องเปิดเผยซอร์สโค๊ด และใช้ GPL ด้วย เอาละสิ ซอร์สโค๊ดอยู่ไหน…
ข่าวแพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว จนเริ่มเป็นคดีความ ทั้งนักพัฒนา ทั้งทนายความ มะรุมมะตุ้ม จนต้องสอบสวนกันว่ามันยังไง
Cisco บอกว่าไม่รู้เรื่อง ซื้อบริษัทมา ไอ้ router มันมากับบริษัท ถามไปที่ Linksys ก็บอกกรูก็ไม่รู้ กรูซื้อ chipset มาจาก Broadcom ถามต่อไปที่ Broadcom ก็บอกกรูก็งง คือกรูจ้างนักพัฒนาภายนอกทำ firmware แล้วไม่รู้ว่มันใช้ Linux
ไม่รู้เหมือนกันว่ามีใครโกหกหรือป่าว แต่มันก็เกิดขึ้นตามนั้น ในที่สุด Cisco ก็จำต้องเปิดเผย ซอร์สโค๊ดของ WRT54G ออกมา
พอเปิดก็ยิ่งทำให้ขายดี ทั้งนักพัฒนา ทั้งแฮ๊กเกอร์ ซื้อไปคุ้ยแคะ ดัดแปลง และพัฒนาไปต่างๆนานา มีทั้ง SSH server, VPN server, proxy แปลกๆ ไปจนถึงเอาไปทำหุ่นยนต์ มีการปรับประสิทธิภาพกันอย่างกว้าวขวาง
และชุมชนก็ทำให้ router ราคา 60 เหรียญ ทำงานได้เหมือน router ไฮโซราคา 600 เหรียญ Cisco เห็นท่าไม่ดี เลยทำรุ่นใหม่ออกมา เอา Linux ออก ใส่ RAM น้อยๆ ไม่ให้ดัดแปลงแล้ว กรูจะขายของแพงต่อ
โดนด่ายับเยินจนต้องออก WRT54GL ออกมาแก้ตัว ชุมชนถึงยอมให้อภัย
หลังจากนั้น source code WRT54G ก็กลายเป็นตำนาน และเป็นต้นกำเนิดของ OpenWRT ซึ่งเป็น Linux distro ที่ใช้ใน Router และเป็นจุดิเริ่มต้นที่สำคัญของการใช้ Linux ในเครื่องที่ไม่ใช่คอมพิวเตอร์ และเปิดโลกของ Embedded Linux ตั้งแต่นั้นมา…