Microsoft Word

ในต้นทศวรรษที่ 80 การพิมพ์เอกสารส่วนใหญ่ยังใช้พิมพ์ดีดอยู่ พิมพ์ดีดไฟฟ้าเริ่มเป็นที่นิยม บรรดาเลขานุการต่างต้องเป็นนักพิมพ์ดีดที่ยอดเยี่ยม เพราะถ้าพิมพ์ผิด หมายถึงต้องพิมพ์ใหม่ทั้งหน้า

มีเรื่องที่ได้รับการเล่าจากผู้ใหญ่ในวงการพิมพ์เมื่อนานมาแล้วว่า การไม่มี ฃ ฃวด และ ฅ ฅน ก็เพราะพิมพ์ดีด IBM ที่ไม่พอที่จะบรรจุอักษรลงบนหัวพิมพ์แบบ Golf Ball ในเวลานั้นได้ เรื่องนี้จริงเท็จอย่างไร ไม่ยืนยันนะครับ สมัยทำงานด้านการพิมพ์มีผู้ใหญ่เล่าให้ฟัง

Xerox มีโปรแกรม Word Processing ที่ยอดเยี่ยมบนเครื่อง workstation ของตัวเอง ระบบที่โด่งดังต้อนนั้นคือ 860 information processor ขายในราคา 15,300 เหรียญ มาพร้อมกับเครื่องพิมพ์ความเร็ว 35 อักษรต่อวินาที เก็บเอกสารได้ 288 หน้าบน floppy disk

โปรแกรม WordProcessor บน 860 นั้นชื่อว่า Xerox BravoX (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น Xerox Document System Editor) ซึ่งพัฒนามาตั้งแต่ปี 1972 บนเครื่อง Xerox Alto

Bill Gates นั้นมองการณ์ไกลว่า Microsoft ต้องมี Word Processor ดีๆซักตัว วิธีที่ง่ายสุดคือ ไปดึงตัวคนทำ Xerox Bravo มา นั่นคือ Charles Simonyi และ Richard Brodie

ทั้งสองมาทำงานกับไมโครซฮฟต์ และเหมือนกับทีม Excel คือ ต้องการทำ Word Processor ที่ดีที่สุดในโลก ปัจจัยของชัยชนะที่สำคัญอย่างหนึ่งคือหัวใจที่อยากเอาชนะ

ในปี 1983 ไมโครซอฟต์ก็ออก Word 1.0 ซึ่งเป็น WYSIWYG (What You See Is What You Get) เห็นหน้าจอเหมือนเอกสารที่พิมพ์ออกมาทางเครื่องพิมพ์ เวอร์ชั่นแรกนี้ยังไม่สมบูรณ์มากนัก จึงตามมาด้วย Word 1.1 ในปี 1984 เรื่อยไปจนถึง Word 4.0 for DOS ในปี 1987 ดีขึ้นเรื่อยๆแต่ยังไม่ปัง

จนกระทั่งปี 1989 เมื่อออก Word for Windows ในราคา 498 เหรียญ และ WinWord 1.1 ออกมาในปี 1990 พร้อม Windows 3.0 จึงได้รับความนิยมสูง

ปัจจัยที่สำเร็จมาจากคู่แข่งตามเคย WordPerfect ที่ครองตลาดอยู่ในเวลานั้น ไม่ยอมออกเวอร์ชั่น Windows ทำให้ Word for Windows ชิงตลาดบน Windows ไปเหมือนๆกับที่ Excel ชิงตลาดจาก Lotus 1-2-3 ที่เล่าไปแล้ว

จากนั้นก็อัพเดทใหญ่เป็น Word 95 ในปี 1995 พร้อมกับ Windows 95 หลังจากนั้น Word ก็พัฒนาเรื่อยมาในฐานะส่วนหนึ่งของ Microsoft Office คู่กับ Microsoft Windows ครองตลาด Productivity Software มาถึงปัจจุบัน

UI ที่สำคัญที่เริ่มใน Microsoft Word คือ Toolbar ซึ่งได้แนวคิดจากปุ่มของเครื่องเล่นเทปคาสเซ็ทในรถยนต์ (น้องๆรู้จักมั้ยหว่า) และเป็น UI ที่เราคุ้นเคยกันมาจนถึงทุกวันนี้