IBM Simon

IBM ครอบครองตลาด Mainframe มาตั้งแต่ทศวรรษ 50s และเมื่อคิดจะลงมาเล่นตลาด PC ในทศวรรษที่ 80s ก็ไม่สามารถครองตลาดใหม่นี้ได้ แต่ความแข็งแกร่งยังมาก ในต้นทศวรรษที่ 90s ตลาดเริ่มเข้าสู่คอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก มีผู้เล่นมากมาย ที่เล่าไปแล้วก็มี GRiD, Microsoft, Palm, Apple Newton ที่ยังไม่ได้เล่าก็อีกมาก

IBM ก็มองเห็นตลาดนี้ว่ากำลังจะมา และคิดการณ์ใหญ่ วิสัยทัศน์ยาวไกลมาก ไปร่วมมือกับผู้ให้บริการโทรศัพท์ Bell South ออกโทรศัพท์ทัชสกรีนตัวแรกที่มีอินเตอร์เน็ตเป็นตัวแรกของโลกในปี 1992 ผลิตภัณฑ์ชื่อว่า IBM Simon

IBM Simon เปิดตัวในงาน COMDEX 1992 และออกตลาดปลายปี 1994 และทำให้ปี 1995 เป็น “Year of the Portable” ด้วยแรงประชาสัมพันธ์ของ IBM

เครื่อง IBM Simon จัดเต็มมาก มีทัชสกรีน ใช้ปากกาก็ได้ นิ้วก็ได้ มี App (ตอนนั้นยังไม่มีศัพท์คำนี้ IBM เรียกว่า Features) หลายตัว ทั้ง Address Book, Calculator, Calendar, Fax, Filter, Mail, Note Pad, Sketch Pad, Time, To Do และที่สำคัญคือมี E-mail

ตอนนั้น Web Browser ยังไม่แพร่หลาย เซอร์ Tim Berners-Lee เพิ่งลาออกจาก CERN มาตั้ง W3C ในปี 1994 ดังนั้นอินเตอร์เน็ตในเวลานั้นจึงเป็นแค่อีเมล์เป็นหลัก

อีเมล์ใน Simon รับได้ทั้งจากสัญญาณโทรศัพท์ แต่เมื่ออยู่ในออฟฟิสหรือบ้าน ก็เอาสายโทรศัพท์ land-line มาเสียบใช้ได้ด้วย เพราะค่าโทรถูกกว่ามาก เรียกว่าคิดมาอย่างดีทุกๆอย่างในด้านการใช้งาน

การคีย์ข้อความใช้ on-screen keyboard ที่มี word prediction ด้วย เรียกว่าจัดมาครบทุกอย่างจริงๆ

IBM Simon มีขนาดใหญ่มากเมื่อเทียบกับโทรศัพท์มือถือในปัจจุบัน คือมีขนาด 8 x 2.5 นิ้ว หนา 1.5 นิ้ว แต่ก็เรียกว่าพกพาสะดวกมากในสมัยนั้น

Bell South ในตอนนั้นจับปลาสองมือ มือหนึ่งร่วมกับ IBM ทำ Simon แต่อีกด้านหนึ่งไปคุยกับ John Sculley แห่ง Apple กะทำ Newton ที่มี cellular ด้วยอีกทาง

ตอนนั้น Bob Guidotti ผู้บริหาร IBM อธิบายว่า ตลาดของ portable computer แยกเป็นสองทางคือ Newton เป็น Electronic Organizer ในขณะที่ IBM Simon เป็น Personal Communicator ซึ่งการพัฒนาของเครื่องในตลาดก็แยกเป็นสองสายตามนั้น

IBM Simon ถือเป็นสัญญลักษณ์แห่งความหรูหราของ Geek สมัยนั้น ใครเคยดูหนัง “The Net” ในปี 1995 จะเห็น Simon ที่นางเอกใช้โทรบนรถ สมัยนั้นคือโครตเท่

Simon ขายได้ราวๆ 50,000 ตัว ในหกเดือนแรก แล้วก็ถึงจุดจบอย่างรวดเร็ว ปัญหาหลักคือ แบตเตอรี่ใช้ได้เพียงชั่วโมงเดียว ความหวังจะเป็น portable ก็เลยไม่เป็น

และในตอนนั้น IBM ก็เริ่มเจ็บตัว ต้องลดขนาดบริษัทลงขนานใหญ่ และ ตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ก็เริ่มแข่งเดือด ทำให้ Bell South ต้องกลับไปสู้ศึกตลาด Cellular เป็นหลัก

IBM Simon จึงเป็นแค่ตำนานที่ตายตั้งแต่ยังไม่ทันไร….