เล่าเรื่อง UNIX กับ Linux ไปแล้ว… วันนี้จะมาเล่าเรื่องวิบากกรรมของ BSD ซึ่งเป็น UNIX อีกสายที่เริ่มต้นจาก University of California at Burkeley
ตอนที่ Linus Torvald เริ่มทำ Linux สำหรับ CPU 80386 นั้น จริงๆแล้วฝั่ง BSD ก็มี Bill และ Lynne Jolitz ได้พอร์ต BSD มาลง 80386 สำเร็จเช่นกัน
ในขณะนั้น BSD คือ 4.3BSD (BSD ใช้เลขเวอร์ชั่นไว้ข้างหน้า เป็นความเท่เฉพาะตัว อย่าได้แปลกใจ) ยังมีไฟล์ที่เป็นสมบัติของ AT&T อยู่ (ไฟล์ที่มี proprietary code หรือ ติดสัญญาอนุญาตใช้ที่ไม่เสรี) จึงมีการพอร์ตมาเป็น BSD Net/2 ซึ่งเขียนโปรแกรมแทนไฟล์ที่เป็นของ AT&T แต่ยังขาดอยู่ 6 ไฟล์ที่ยังเขียนแทนไม่เสร็จ
Jolitz เขียนโปรแกรมไฟล์ที่ขาดไปจนครบ แล้วพอร์ตมาลง 80386 ในชื่อ 386/BSD ออกมาในเดือนกุมภาพันธ์ 1992 ได้รับความนิยมอย่างมาก แต่เนื่องจากโปรเจกต์ใหญ่ แก้บั๊กไม่ทันใจ ก็เลยเกิดการแตกแขนงของ BSD ออกมามากมายจาก 386/BSD
NetBSD ดัดแปลงให้เข้ากับ hardware อื่นๆ, FreeBSD ดัดแปลงให้มีความเร็วสูงและทันสมัย ทั้งสองออกมาในปี 1993 ตามมาด้วย OpenBSD ที่ fork จาก NetBSD ออกมาในปี 1996 และ DragonFly BSD ที่ fork จาก FreeBSD โดยสนับสนุน symmetric multiprocessing (SMP) architecture
ตอนนั้น BSD เริ่มเป็นที่นิยมนอกมหาวิทยาลัย เพราะสลัดเอาไฟล์ที่เป็นของ AT&T ออก เลยมีบริษัท Berkeley Software Design, Inc (BSDi) ตั้งขี้นมาขาย BSD แบบ commercial (ตอนนี้ Wind River ซื้อไป) โดยขาย Net/2 + 386/BSD ในราคา $995
สมัยนั้นยังไม่มี website เลยไม่มี URL สิ่งที่เป็นเหมือน URL คือ เบอร์โทรฟรี 1-800 ในสหรัฐ BSDi ดันใช้เบอร์ 1-800-ITS-UNIX เลยเกิดไปกระตุกต่อมของ AT&T เข้า เริ่มเข้าสู่การฟ้องร้องขนานใหญ่
USL บริษัทลูกของ AT&T ยื่นฟ้อง BSDi ให้เลิกขาย และไม่ให้ใช้เบอร์โทรเจ้าปัญหาฟ้องกันอิรุงตุงนัง จนลามปามไปฟ้อง U of California at Berkeley ด้วย เลยโดนมหาวิทยาลัยฟ้องกลับว่า AT&T UNIX ก็ใช้โค๊ดของมหาวิทยาลัย และไม่ให้เครดิตด้วย เริ่มเป็นคดีมหากาพย์
ศาลยังไม่ทันตัดสิน Novell ก็เข้าซื้อ USL และเป็นโชคดีของโลก คือ Ray Noorda ซีอีโอของ Novell บอกว่าไปแข่งกันในตลาด เค้าไม่ต้องการแข่งกันในศาล แล้วยอมความกันนอกศาล
จากนั้นก็ใช้เวลาต่อมาอีกหลายปีที่ BSD ต้องเคลียร์ไฟล์ที่ยังมีบางส่วนที่เป็นสมบัติของ AT&T หลงเหลืออยู่ และมี 70 ไฟล์ที่ต้องใส่ Copyright Notice ให้ AT&T ลงไปในไฟล์ ทำให้การแจกฟรี BSD ทำไม่ได้อีกต่อไป
จนในปี 1994 U of California ก็ออก 4.4BSD-Lite ที่เคลียร์ไฟล์ได้ทั้งหมดออกมา และเป็นเวอร์ชั่นสุดท้ายที่ออกจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้
BSDi, FreeBSD, NetBSD ก็ต้องแทนไฟล์ที่มาจาก Net/2 ด้วยไฟล์จาก 4.4BSD-Lite ซึ่งทำให้การออกผลิตภัณฑ์ฝั่ง BSD ติดขัดอยู่หลายปี ข้อดีคือ OS พวกนี้ก็เลย compatible กัน ไม่ต่างคนต่างทำเหมือนตอนแรก
ช่วงนั้นก็พอดี Linux เกิด….