World Wide Web เกิดขึ้นในปี 1991 และใช้เวลาถึง 3 ปีกว่าจะมี Netscape Navigator ให้ใช้ในวงกว้าง และใช้เวลาอีกหลายปีจนถึง 1998 ที่ Google เริ่มมีบทบาทในการเป็น Search Engine
10 ปีแรกของเว็บ ไม่มีใครนึกถึง Search Engine ในแบบที่ Google ทำในทุกวันนี้ Search Engine ในระยะแรกมักทำกันในมหาวิทยาลัย โดยใช้โปรแกรม web crawler ต่างๆ ดาวน์โหลดเว็บมาแล้วทำ index แต่ส่วนมากเป็นแค่การทดลอง ไม่มีใครสู้ต้นทุนของค่า network กับ ค่า storage ในสมัยนั้นไหว
ราวปี 1995 Louis Monier เป็นพนักงานในบริษัท DEC (Digital Equipment Corporation) ซึ่งเป็นบริษัทขายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ (น้องๆ IBM) ทดลองทำ search engine บนเครื่องเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ของบริษัท แล้วโน้มน้าวให้ผู้บริหารปล่อยให้คนภายนอกใช้
Search Engine ในเวลานั้น ไม่มีใครคิดว่าจะเป็นธุรกิจได้ เพราะต้นทุนมหาศาล และไม่มีใครคิดถึง business model ที่จะหาเงินได้
DEC ตกลงใจที่จะเปิดให้สาธารณะใช้ เพียงเพื่อเป็นแคมเปญประชาสัมพันธ์ให้คนรู้จักบริษัทเท่านั้นเอง และมันก็ได้ผลดี โลกของอินเตอร์เน็ตรู้จัก Alta Vista และรู้จัก DEC ตามที่หวัง แต่ฝันร้ายก็มาเยือน
AltaVista ไม่มี Business Model ที่จะทำ Search Engine เพราะไม่ใช่เป้าหมายใดๆในทางธุรกิจของ DEC เลย แม้ในช่วงแรกมันจะทำงานได้ดี แต่ DEC ไม่เคยใส่เงินเพื่อทำการวิจัยปรับปรุงใดๆ มีแต่ใช้เงินเพื่อการประชาสัมพันธ์เท่านั้น (ซึ่งก็ได้ผลตามที่ต้องการ)
AltaVista เป็นที่รู้จักมากขึ้นเท่าไร ก็มีฝันร้ายตามมามากขึ้นเท่านั้น ผู้คนต่างพยายามหลอกเครื่องเพื่อให้ตำแหน่งของเว็บของตัวเองขึ้นไปในอันดับสูงสุด ในยุคนั้นยังไม่มีคำว่า SEO วิธีที่ใช้แทบทั้งหมดไม่มีรูปแบบ แย่ยิ่งกว่า Black Hat SEO ในปัจจุบันหลายเท่า
ในโลกทีสวยสดงดงานของ Monier คิดว่าโลกอินเตอร์เน็ตใสสะอาด ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนั้น และไม่เคยคิดสร้างโปรแกรมเพื่อป้องกันหรือต่อสู้กับบรรดาสารพัดวิธีที่คนพยายามหลอก search engine
ในคำใหัสัมภาษณ์ของ Monier ในภายหลังครั้งหนึ่ง เค้าบอกว่า “ผมไม่นึกว่าจะมีคนใช้เทคโนโลยีไปในทางเลวร้าย…”
ผลสุดท้ายคือผลของการ sarch ของ AltaVista ล้วนไม่มีคุณภาพ มีแต่ผลจาก content ขยะทั้งหลาย
บ่ายวันหนึ่งมีหนุ่มน้อยชื่อ Larry Page โทรมาหา Monier แนะนำตัวว่าเป็นนักเรียน Stanford และได้ทำ Search Engine ที่ดีกว่า AltaVista มาเสนอขาย โดยตั้งราคาขายไว้ที่ 1 ล้านเหรียญ
ผลการเจรจามีการต่อรองไปจนถึง 750,000 เหรียญ แต่สุดท้าย DEC ตอบเด็กหนุ่มไปว่า “DEC ไม่มี budget พอในเรื่องนี้”
จากนั้นไม่นาน DEC ก็ประสบความล้มเหลวในทางธุรกิจคอมพิวเตอร์และขายบริษัทให้ Compaq ไปในที่สุด
ส่วนเด็กหนุ่มและเพื่อนที่มาเสนอขาย ก็กลายเป็น “Google” ในทุกวันนี้
บางครั้งโอกาสมันมาถึงตรงหน้า แต่ก็พลาดไปอย่างน่าเสียดาย DEC เสียโอกาสใหญ่ไป ในขณะเดียวกัน Larry Page ก็เสียโอกาสที่ไม่ได้ขาย แต่ก็ทำให้ได้โอกาสใหม่ในภายหลัง ดังนั้นการเสียโอกาส ไม่ได้เลวร้ายเสมอไป