World Wide Web เกิดขึ้นในปี 1989 … ตอนนี้ผ่านมา 32 ปีแล้ว .. อินเตอร์เน็ตและเว็บได้เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต เศรษฐกิจ และสังคมของคนทั่วโลก ใน 32 ปีที่ผ่านมา เราต้องขอบคุณคนหลายคน และต้องรู้จักกับปีศาจหลายตน…
ในปี 1989 Tim Berners-Lee (ตอนนี้ได้รับบรรดาศักดิ์ในอังกฤษเป็นท่านเซอร์) เสนอโครงการพัฒนาระบบบริหารข้อมูลขึ้นในขณะที่ทำงานที่ CERN (สถาบันวิจัยด้านนิวเคลียร์ของสหภาพยุโรป – European Organization for Nuclear Research) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กรุงเจนีวา สวิสเซอร์แลนด์
ทิมพัฒนา www โดยใช้เครื่อง NeXT ทำเสร็จในปีถัดมา ได้ Web Editor, Web Browser และ Web Server ชุดแรกของโลกออกมา เริ่มนำมาเผยแพร่ให้บรรดาสถาบันวิจัยในปี 1991 และเริ่มใช้ในวงกว้างในปี 1993
ทิม เสนอให้ CERN มอบผลงานชิ้นนี้ให้เป็นสาธารณะประโยชน์ (public domain) และ CERN ก็ตกลงตามนั้น … นับเป็นการตัดสินใจที่เป็นคุนูปการ ต่อชาวโลก หาก www เกิดขึ้นในบริษัทเอกชน และไม่ได้เป็นสมบัติสาธารณะ เราก็อาจจะไม่ได้ใช้เว็บอย่างเสรีเช่นในปัจจุบัน เป็นเรื่องที่ดีที่หากผลงานวิจัยของหน่วยงานวิจัยของรัฐ ควรเป็นสมบัติสาธารณะและ Open source ซึ่งผมมักจะเรียกร้องในเรื่องนี้เสมอ
หลังจากนั้นในปี 1994 ทิมก็ลาออกจาก CERN ไปทำงานที่ MIT และตั้ง World Wide Web Consortium (W3C) องค์กรที่ทำหน้าที่กำหนดมาตรฐานของ Web มาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งการที่มี W3C ทำให้เว็บมีมาตรฐานร่วมกัน แม้ว่าหลายครั้งหลายหนจะมีปัญหาในเชิงมาตรฐาน (จะเล่าให้ฟังต่อไป) แต่ก็ผ่านมาด้วยดีจนเรามีโลกของอินเตอร์เน็ตในปัจจุบัน
WWW ช่วงแรกเป็นการพัฒนาจากมหาวิทยาลัย หรือหน่วยงานวิจัยภาครัฐทั้งสิ้น Browser ที่ได้รับความนิยมแพร่หลายของโลกตัวแรกคือ Mosaic ที่สร้างโดย Marc Andreessen และ Eric Bina ขณะทำงานที่ NCSA, มหาวิทยาลัยอิลินอยส์ ผมได้เล่น Mosaic ครั้งแรกราวปี 1994 เพราะน้องๆที่เรียน ABAC ในสมัยนั้นเอามาให้ลองเล่น ช่วงนั้น ABAC ก้าวหน้าเรื่องอินเตอร์เน็ตมาก
ในปี 1994 มาร์ก ลาออกมาตั้งบริษัท Netscape และระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 1995 เป็น IPO ที่ใหญ่เป็นประวัติการณ์ในตอนนั้น ใหญ่จนไมโครซอฟต์ที่ไม่สนใจอินเตอร์เน็ตในตอนนั้นต้องเปลี่ยนใจ
ไมโครซอฟต์ไป license Mosaic จากบริษัท Spyglass ซึ่งได้ license มาจาก NCSA อีกต่อนึง และถือกำเนิด Internet Explorer ขึ้นมา
ด้วยเหตุว่า Web มีผลต่อธุรกิจของไมโครซอฟต์โดยตรง ต้องล็อกให้ผู้คนอยู่กับวินโดว์สให้ได้ ดังนั้น IE ที่แม้จะมีชื่อ Mosaic ติดอยู่ใน About box หรา ก็เริ่มใส่สิ่งที่ผูกกับวินโดว์สเข้าไป และใช้กลยุทธ์ขายพ่วงประกาศศึกกับ Netscape เป็น “Browser War” ในตำนาน
ศึกนี้มีผลให้ Netscape ถึงกับเจ๊ง แต่ทางรัฐบาลสหรัฐก็ฟ้องไมโครซอฟต์ในข้อหาผูกขาด และชนะความ ศาลมีคำสั่งให้แยกบริษัทไมโครซอฟต์ออกเป็นสองบริษัท OS กับ App ไม่ให้ขายพ่วง
ในคดีไมโครซอฟต์กับ DOJ นั้น เป็นเรื่องที่ DOJ ซึ่งเป็นโจทก์ยื่นฟ้องร้องขอต่อศาล แต่ศาลยังไม่ได้ตัดสิน คดีไปไม่ถึงที่สุดเพราะมีการยอมความกันในปี 2001 แต่จนอีกหลายปีต่อมาศาลอุทธรณ์ตามรัฐต่างๆ จึงยอมรับการยอมความและจบคดีในอเมริกา ส่วนในเรื่องผลกระทบที่ได้รับและค่าปรับต่างๆ นั้น ไมโครซอฟต์โดนจากคดีเดียวกันในยุโรปกับ EU หนักกว่าในอเมริกามาก โดยไมโครซอฟต์ต้องจ่ายให้กับ EU หลายรอบ จ่ายไปเรื่อยๆ จนถึงราวปี 2006 รวมๆ แล้วกว่าพันล้านเหรียญ
กว่าที่โลกทั้งใบจะเอาชนะ IE ได้ก็ใช้เวลาไปเกือบสองทศวรรษ และโลกก็เข้าสู่ยุคที่ Web เริ่มเป็นมาตรฐาน โดยมี Firefox (โครงการที่สืบทอดเจตนารมย์ของ Netscape) และ Chrome ของ Google
โลกอินเตอร์เน็ตรุ่งเรืองมาเรื่อย แต่ไม่รุ่งในโมบายซักที เพราะเจ้าตลาดคือโนเกียในตอนนั้น ทำ browser ได้ห่วยถึงใจ
จนอีตาจ๊อบส์ ศาสดาของคนหลายคนสร้าง iPhone โทรศัพท์เทพในตำนานขึ้นมา เราก็เข้าสู่ยุค Mobile Internet ด้วยนิ้วสองนิ้วที่เหนือกว่าไม้จิ้มจอของเจ้าอื่น
ตอนแรกศาสดาหวังจะปั้นให้โลกนี้เป็นโลกของเว็บ แต่ดันมีคนแฮ๊กเข้าไปเขียนโปรแกรมใน iPhone จนต้องยอมปล่อย SDK ออกมา และกำเนิด AppStore ขึ้น ทำเงินมหาศาลให้กับ Apple ที่ฉับพลันวิญญาณไมโครซอฟต์เข้าสิง ไม่ยอมพัฒนา Safari ให้ดี ทั้งๆที่ตอนเริ่มต้น WebKit ซึ่งเป็น engine ของ Safari นั้นคือผู้นำตลาดเว็บเอ็นจิ้น
แถมประกาศห้ามคนอื่นเอา Web Engine อื่นมาใช้ใน iPhone ขนาด Chrome ของ Google ก็ไม่พ้นกฎนี้ ต้องกล้ำกลืนใช้ engine Safari มาจนทุกวันนี้ แถมห้ามไม่ให้ JavaScript ใช้ JIT compiler ด้วย ให้ใช้แค่ JS interpreter ให้มันทำงานช้าๆ จะได้ไม่ไปแข่งกับ App
โลกกำลังพัฒนากลับมาทางเว็บ อีกรอบ การเกิดขึ้นของ PWA (Progressive Web App) กำลังทำให้ Web มีการทำงานใกล้เคียงกับ App แต่ก็ยังอยู่ในช่วงที่กำลังเติบโต
อย่างไรก็ตามเว็บก็กลายเป็นเทคโนโลยีที่เปลี่ยนโลกไปมาก Digital Transformation เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วโดยมีเว็บเป็นศูนย์กลาง การเปลี่ยนผ่านเข้าสู่โลกดิจิตอลเป็นไปอย่างรวดเร็วตามที่ทุกท่านได้เห็นอยู่